เปิดคู่มือดูแลลูกด้วย fish oil บำรุงสมอง เสริมภูมิคุ้มกันอย่างปลอดภัย

น้ำมันปลา

น้ำมันปลา ช่วยอะไรบ้าง?

   น้ำมันปลา” หรือ fish oil ไม่ได้เป็นแค่อาหารเสริมกระแสที่ใครๆ กิน แต่คือแหล่งของสารอาหารจำเป็นที่มีผลต่อ พัฒนาการทั้งสมอง ร่างกาย และภูมิคุ้มกันของเด็ก โดยเฉพาะในช่วงวัยเรียนรู้ ที่การเจริญเติบโตของเซลล์สมองและภูมิคุ้มกันกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและนี่คือ 5 ประโยชน์เด่นที่น้ำมันปลามอบให้กับลูกน้อยของคุณ

1. พัฒนาสมองและระบบประสาทอย่างเต็มศักยภาพ

    น้ำมันปลาอุดมด้วย DHA (Docosahexaenoic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่พบมากในสมองและจอประสาทตาในวัยเด็ก DHA มีบทบาทสำคัญในการ:

  • สร้างและเสริมเซลล์สมอง
  • เพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อของใยประสาท
  • ส่งเสริมการเรียนรู้ ความจำ และสมาธิ
dha คือ

    จากงานวิจัยหลายฉบับพบว่า เด็กที่ได้รับ DHA เพียงพอจะมีความจำ การใช้เหตุผล ความฉลาดทางอารมณ์ เรียนรู้เร็ว มีสมาธิ และจดจำได้ดี กว่าเด็กที่ขาด DHA

2. บำรุงสายตาให้คมชัด มองเห็นชัดเจน

    DHA ยังเป็นส่วนประกอบหลักของ จอประสาทตา (Retina) ซึ่งทำหน้าที่รับแสงและส่งสัญญาณภาพไปยังสมอง หากร่างกายได้รับ DHA ไม่เพียงพอ อาจทำให้สายตาพร่ามัว หรือพัฒนาการมองเห็นล่าช้าในเด็ก

น้ำมันปลาจึงช่วย:

  • เสริมการมองเห็นให้คมชัด
  • ป้องกันภาวะตาแห้งและความล้าในเด็กที่ใช้หน้าจอบ่อย
  • สนับสนุนพัฒนาการของสายตาในช่วงวัยเรียนรู้

3. เสริมภูมิคุ้มกัน ลดการป่วย

    ใน fish oil มี EPA (Eicosapentaenoic Acid) ซึ่งช่วยลดการอักเสบในร่างกาย และสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

น้ำมันปลาจึงเหมาะสำหรับเด็กที่:

  • ป่วยง่าย ติดหวัดบ่อย
  • มีอาการแพ้อากาศ หรือโรคภูมิแพ้
  • มีผิวหนังอักเสบจากการแพ้ เช่น ผื่น แดง คัน

    การได้รับ EPA จากน้ำมันปลาสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น และลดการอักเสบเรื้อรัง

น้ำมันปลากินตอนไหน

4. ลดอาการสมาธิสั้น (ADHD) และช่วยปรับสมดุลอารมณ์

    หลายงานวิจัยพบว่า เด็กที่มีแนวโน้มสมาธิสั้น หรือมีอาการทางพฤติกรรม เช่น หงุดหงิดง่าย อยู่ไม่นิ่งและ วอกแวกง่าย มักมีระดับ DHA และ EPA ในร่างกายต่ำกว่าปกติ

การเสริม fish oil เป็นประจำมีส่วนช่วย:

  • เพิ่มสมาธิ
  • ลดพฤติกรรมก้าวร้าว
  • ปรับสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง เช่น dopamine, serotonin
  • ส่งเสริมความมั่นคงทางอารมณ์ในเด็กวัยเรียน

    แม้ไม่ใช่ยารักษาโดยตรง แต่ fish oil ถือเป็นผู้ช่วยที่ “นุ่มนวลแต่ทรงพลัง” สำหรับเด็กในกลุ่มนี้

5. เสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาว

    แม้ในวัยเด็กปัญหาโรคหัวใจอาจยังไม่ชัดเจน แต่การเสริม fish oil ตั้งแต่วัยเล็กจะช่วย

  • ควบคุมระดับไขมันในเลือดให้สมดุล
  • ป้องกันการสะสมของคอเลสเตอรอล
  • เสริมความยืดหยุ่นของหลอดเลือด
  • ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดในอนาคต

สุขภาพหัวใจที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก คือกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีในอนาคต

น้ำมันปลากินตอนไหนดีที่สุด? เด็กควรเริ่มเมื่อไหร่?

น้ำมันปลา กินตอนไหนดี

เวลากินน้ำมันปลาที่ดีที่สุดคือ “หลังอาหาร”

    น้ำมันปลาเป็นไขมันดี ซึ่งหมายความว่า ร่างกายจะดูดซึมได้ดีที่สุดเมื่อมีไขมันชนิดอื่นเล็กน้อยในกระเพาะอาหาร ดังนั้น คำแนะนำที่ได้ผลจริงคือ การทานน้ำมันปลาหลังอาหารเช้า หรือ หลังอาหารเย็น โดยเฉพาะมื้อที่มีไขมันดีจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ไข่แดง อะโวคาโด หรือปลานึ่ง จะช่วยให้ DHA และ EPA ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น

หลีกเลี่ยงการทานขณะท้องว่าง

    แม้ว่าจะไม่ได้อันตรายร้ายแรง แต่การทานน้ำมันปลาขณะท้องว่างอาจทำให้:

  • ดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง
  • เกิดอาการคลื่นไส้หรือระคายเคืองในบางคน
  • เด็กบางคนอาจรู้สึกเหม็นคาวมากกว่าปกติ

เด็กเริ่มทานน้ำมันปลาได้เมื่อไหร่?

    คำแนะนำทั่วไปคือ เด็กสามารถเริ่มทานน้ำมันปลาได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่ระบบย่อยอาหารเริ่มแข็งแรง และต้องการ DHA และ EPA อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างสมองและระบบประสาท แต่ ควรเลือกน้ำมันปลาที่ “ออกแบบมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ” เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและปริมาณที่เหมาะสม

น้ำมันปลาไม่ควรกินคู่กับอะไร?

น้ำมันปลาไม่ควรกินคู่กับอะไร

    แม้น้ำมันปลาจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเรื่องสมอง สายตา หรือภูมิคุ้มกัน แต่รู้หรือไม่ว่า หากทานควบคู่กับสารบางอย่าง อาจทำให้ประสิทธิภาพของน้ำมันปลาลดลง หรืออาจส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ก่อนจะเสริม fish oil ให้ลูกหรือทานเอง ควรหลีกเลี่ยงการทานน้ำมันปลาร่วมกับสิ่งต่อไปนี้

1. ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด (เช่น Aspirin, Warfarin)

    น้ำมันปลามีคุณสมบัติช่วยลดการจับตัวของเกล็ดเลือดตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับสุขภาพหัวใจ  แต่ถ้าทานร่วมกับ ยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, Warfarin (Coumadin), Heparin ซี่งหากทานร่วมกันอาจทำให้ ฤทธิ์เสริมกันมากเกินไป จนทำให้เลือดหยุดไหลยาก หากเกิดแผลหรืออุบัติเหตุ คำแนะนำคือ หากคุณกำลังทานยาเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสริมน้ำมันปลา

2. อาหารเสริมที่มีวิตามิน A สูง เช่น น้ำมันตับปลา

    “น้ำมันตับปลา” นั้นต่างจาก “น้ำมันปลา” เพราะอุดมไปด้วย วิตามิน A และ D หากทานร่วมกับ fish oil หรืออาหารเสริมอื่นที่มีวิตามิน A อยู่แล้ว อาจทำให้เกิด “ภาวะสะสมวิตามิน A” ในร่างกาย อาการของวิตามิน A เกิน ได้แก่ คลื่นไส้ เบื่ออาหาร, ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว, ผิวแห้ง ผมร่วง, ในระยะยาวอาจเป็นพิษต่อตับ โดยเฉพาะในเด็ก การสะสมของวิตามิน A มากเกินไปอาจรบกวนการเจริญเติบโตได้

3. ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

    การดื่มชา หรือกาแฟ พร้อมกับการทานน้ำมันปลา อาจลดการดูดซึมของโอเมก้า 3 และวิตามินบางชนิดใน fish oil โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น A, D, E, K นอกจากนี้ คาเฟอีนในชา กาแฟ ยังเป็นสารกระตุ้นที่อาจ รบกวนการย่อยและดูดซึมของน้ำมันปลา ได้อีกด้วย คำแนะนำ ควรเว้นระยะอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ระหว่างการดื่มชา กาแฟ กับการทานน้ำมันปลา

Fish Oil ประโยชน์ต่อภูมิคุ้มกันและโรคภูมิแพ้

น้ำมันปลา ช่วยอะไร

    ใน fish oil มีสาร EPA (Eicosapentaenoic Acid) ที่ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย จึงเหมาะสำหรับเด็กที่มีอาการแพ้บ่อย ซึ่งช่วยลดอาการน้ำมูกไหลจากภูมิแพ้  ป้องกันไข้หวัด และการติดเชื้อบ่อย และเสริมเกราะป้องกันไวรัสช่วงฤดูเปลี่ยน เป็นต้น

Fish Oil ช่วยภูมิคุ้มกันได้อย่างไร?

    น้ำมันปลาคุณภาพสูงจะอุดมด้วยกรดไขมัน โอเมก้า 3 ชนิด EPA (Eicosapentaenoic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือ:

  • ต้านการอักเสบในระดับเซลล์
  • ควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
  • ลดการตอบสนองที่มากเกินไปของร่างกาย (เช่น ในผู้ที่เป็นภูมิแพ้)

    การทำงานของ EPA เปรียบเสมือน “ผู้ควบคุมสมดุลในร่างกาย” ที่ไม่ปล่อยให้ร่างกายไวเกินไปต่อสิ่งกระตุ้น (เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร) แต่ก็พร้อมป้องกันเชื้อโรคอย่างมีประสิทธิภาพ

fish oil ประโยชน์

ประโยชน์เด่นของ Fish Oil ต่อภูมิคุ้มกันเด็ก

1. ลดอาการน้ำมูกไหลจากภูมิแพ้

    EPA ช่วยลดการหลั่งสารก่อภูมิแพ้ เช่น histamine และ leukotriene ที่ทำให้เกิดน้ำมูก อาการจาม และตาแดง

2. ลดโอกาสการติดเชื้อบ่อยในเด็กเล็ก

    น้ำมันปลาช่วยกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานได้ดีขึ้น เพิ่มความสามารถในการดักจับและทำลายไวรัสหรือแบคทีเรีย

3. เสริมเกราะภูมิคุ้มกันช่วงฤดูเปลี่ยน

    ช่วงที่อากาศเปลี่ยน เด็กมักป่วยง่ายกว่าปกติ เพราะร่างกายปรับตัวไม่ทัน การมีระดับ EPA และ DHA ในร่างกายเพียงพอ จะช่วยให้ลูก “มีเกราะป้องกันภายใน” ลดโอกาสป่วยจากไข้หวัดและไวรัสตามฤดูกาล

Klarin’s Kids Multi Elderberry & DHA Omega3

น้ำมันปลา Klarins

    วิตามินเคี้ยวสำหรับเด็ก… ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมพัฒนาการลูกน้อยอย่างรอบด้าน

    ในยุคที่เด็กต้องเผชิญทั้งฝุ่น โรค ภาวะขาดสมาธิ และการเรียนรู้ที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน พ่อแม่หลายคนจึงมองหาวิตามินรวมที่ ตอบโจทย์ทั้งสมอง ร่างกาย และภูมิคุ้มกันในเม็ดเดียว และนี่คือเหตุผลที่ Klarin’s Kids Multi Elderberry & DHA Omega3 กำลังเป็นตัวเลือกที่ผู้ปกครัวยุคใหม่ไว้วางใจ

DHA จากปลาทูน่าธรรมชาติ “เสริมสมอง | เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ของลูก”

    DHA คือสารอาหารสำคัญที่ช่วยสร้างเซลล์สมองและระบบประสาทในเด็ก ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ Klarin’s เลือกใช้ DHA จากปลาทูน่าธรรมชาตินำเข้าจากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นแหล่งโอเมก้า 3 ที่มีคุณภาพสูง

  • ช่วยให้ลูกมีสมาธิดี จดจำไว และเรียนรู้เร็ว
  • ส่งเสริมการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท (Neuroplasticity)
  • ดีต่อพัฒนาการระยะยาวทั้งในด้านสติปัญญาและอารมณ์
น้ำมันปลา klarins innovation

Elderberry สกัดเข้มข้น 6.5 เท่า จาก USA “ภูมิคุ้มกันแข็งแรง | ป้องกันไวรัสและเชื้อโรคได้ถึง 85%”

Elderberry เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยสารต้านไวรัสและอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ Klarin’s ใช้เทคโนโลยี INFIDRI™ ซึ่งทำให้คงคุณค่า Polyphenols ได้มากกว่าการสกัดทั่วไปถึง 6.5 เท่า

  • เสริมภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติให้กับเด็ก
  • ลดความเสี่ยงในการติดหวัดหรือติดไวรัสบ่อย
  • ปลอดภัย ใช้ได้ต่อเนื่องในทุกช่วงวัยของเด็ก
น้ำมันปลา klarin's

Vitamin B1–B12 และ Vitamin C “เพิ่มพลังงาน สร้างเม็ดเลือด และต้านอนุมูลอิสระ”

    วิตามินบีรวมทำหน้าที่หลายอย่างในร่างกาย เช่น:

  • Vitamin B1-B5  เปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน
  • Vitamin B9 & B12  สร้างเม็ดเลือดแดง เสริมการเจริญเติบโตของเซลล์
  • Vitamin C  ช่วยสร้างคอลลาเจน เสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรค

    ด้วยการรวมวิตามินเหล่านี้ในเม็ดเดียว เด็กๆ จะมีทั้งพลังงาน ความสดชื่น และสุขภาพที่แข็งแรงจากภายใน

นมวัวแท้จากนิวซีแลนด์ “แหล่งแคลเซียมและโปรตีนคุณภาพสูง | ดีต่อกระดูกและฟัน”

    เราเลือกใช้นมวัวจากนิวซีแลนด์ เพื่อให้ได้น้ำนมที่อุดมด้วยแคลเซียม โปรตีน และสารอาหารสำคัญ

  • ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อ
  • เพิ่มความสูงอย่างปลอดภัยโดยไม่เร่งฮอร์โมน
  • ร่างกายดูดซึมได้ง่าย เพราะเป็นสูตรเฉพาะของ Klarin’s
น้ำมันปลา คลารินส์ อินโนเวชั่น จำกัด

รสนมสตรอว์เบอร์รี่ – อร่อย เคี้ยวง่าย ไม่มีกลิ่นคาว

    ลืมภาพน้ำมันปลากลิ่นแรง หรือวิตามินรสขมที่ต้องบังคับลูกทานไปเลย สูตรของ Klarin’s ผสมผสานรสชาติหอมละมุนของสตรอว์เบอร์รี่และนมเข้าด้วยกัน เด็กๆ จะรู้สึกเหมือนทานขนมเคี้ยวเล่น มากกว่าการกินยา

  • ไม่มีน้ำตาลเกิน ไม่ใส่สีสังเคราะห์
  • ไม่มีกลิ่นคาว ไม่ต้องฝืนกลืน
  • ทานได้ทุกวันโดยไม่เบื่อ

เพราะสุขภาพลูกน้อยคือเรื่องใหญ่…

    ให้ Klarin’s Kids Multi Elderberry & DHA Omega3 เป็นผู้ช่วยดูแลพัฒนาการของลูกคุณในทุกวัน

  • รวมสารอาหารที่จำเป็นต่อสมอง ภูมิคุ้มกัน และกระดูกไว้ในเม็ดเดียว
  • เคี้ยวง่าย อร่อย ปลอดภัย เหมาะกับเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป
  • ได้รับความไว้วางใจจากคุณแม่หลายครอบครัว
น้ำมันปลา คลารินส์

*โปรโมชั่นพิเศษมีเฉพาะทางเว็บไซต์ทางการของ Klarin เท่านั้น

สินค้าที่เกี่ยวข้อง